เหตุสารเคมีรั่วไหลที่ท่าเรือแหลมฉบัง

- ขณะนี้เกิดเหตุสารเคมีรั่วไหลที่ท่า B3 พิสูจน์ทราบในเบื้องต้นเป็น DG 5.1 UN 3085
- ลมพัดจาก อ/น ไปทางใต้
- โปรดอยู่ในอาคารและหลีกเลี่ยงการสูดดมแก๊ส

เมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 26 พ.ย. 52 เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างประทีปศรีราชา อำเภอศรีราชา ได้รับแจ้งจากโรงงานหลายแห่งในนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบังและบริษัทในท่าเรือเรือแหลมฉบังว่า มีคนงานได้รับบาดเจ็บจากการสูดสารเคมีเข้าไปรวมจำนวนทั้งสิ้น 5 ราย ส่วนอีก 4 รายเป็นพนักงานดับเพลิง รวม 9 ราย จึงได้ช่วยกันลำเลียงแยกกันส่งตามโรงพยาบาลต่างๆในเขตพื้นที่อำเภอศรีราชา ซึ่งผู้ที่ได้รับบาดเจ็บทุกคนมีอาการหายใจติดขัด คลื่นเหียนวิงเวียนอาเจียน ตามร่างกายเป็นผื่นแดง แพทย์จึงได้ช่วยกันระดมกำลังรักษาโดยอาการล่าสุดทุกคนอยู่ในขั้นปลอดภัยแล้ว โดยก่อนหน้านี้เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 25 พ.ย. 52 ได้เกิดเหตุสารเคมีออกซิไดซิ่งเอเจ้นท์ หรือ สาร BROMINE POBLET ซึ่งเป็นสารฟอกขาวใช้ในกระบวนการฆ่าเชื้อโรคในน้ำ อาทิ ใช้ฆ่าเชื้อโรคในน้ำประปา จำนวน 22 ตัน ภายในตู้คอนเทนเนอร์ที่วางอยู่บนลานท่าเทียบเรือ บี 3 ได้เกิดรั่วไหลฟุ้งกระจายออกมาเป็นกลุ่มควันกระจายเป็นบริเวณกว้าง แต่เจ้าหน้าที่ก็ใช้เวลากว่าครึ่งชั่วโมงก็สามารถควบคุมสารเคมีไว้ได้ จนกระทั่งมีพนักงานในโรงงานและท่าเทียบเรือที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุและพนักงานดับเพลิงที่เข้าไปในที่เกิดเหตุ ซึ่งสูดไอจากสารเคมีเข้าไปมากจนทำให้ร่างกายรับไม่ไหวต้องล้มป่วยหามส่งโรงพยาบาล

ต่อมาชาวบ้านในชุมชนแหลมฉบังจำนวนหลายร้อยคนซึ่งอยู่ติดกับท่าเรือแหลมฉบังที่ทราบข่าวว่ามีคนบาดเจ็บจากการสูดดมสารเคมีเข้าไป ต่างก็ตกใจและหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พากันอพยพครอบครัวมาพักชั่วคราวที่ โรงเรียนเทศบาลแหลมฉบัง 2 ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากท่าเรือแหลมฉบังประมาณ 3 กิโลเมตร โดยในเบื้องต้นทางท่าเรือแหลมฉบังก็ได้ออกมาแจ้งว่าสามารถควบคุมการแพร่กระจายของสารเคมีไว้ได้แล้ว และตรวจวัดคุณภาพอากาศไม่เป็นอันตรายต่อประชาชน โดยชาวบ้านบอกว่าจะอยู่รอดูสถานการณ์อีกสักระยะหนึ่ง และคาดว่าจะทยอยกันกลับบ้านของตนเองกันก่อนรุ่งสาง